ในยุคที่พลังงานสะอาดและยั่งยืนทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับส่วนประกอบหลักที่สำคัญของระบบติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและเข้าใจถึงการทำงานของเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์นี้มากยิ่งขึ้น รวมถึงความสำคัญของการติดตั้งโซลาร์เซลล์อย่างถูกวิธี
ส่วนประกอบหลักของการติดตั้งโซลาร์เซลล์:

1.) แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panel): นี่คือหัวใจสำคัญของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่รับแสงอาทิตย์และเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) มีหลายชนิด เช่น โมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline) โพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline) และฟิล์มบาง (Thin-film) โดยแผงโซลาร์ที่บริษัทของเราเลือกใช้สำหรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์คือแผง Tier 1 ทั้งหมดจากการจัดอันดับของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ที่มีชนิดเป็นโมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cell) และมีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้ามากที่สุด มียี่ห้อดังนี้ JASolar, PHONO, JinKo, LONGI Solar, CanadianSolar และ Qcells

2.) อินเวอร์เตอร์ (Inverter): เป็นอุปกรณ์จำเป็นในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งเป็นไฟฟ้าที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนของการไฟฟ้าฯ เพื่อให้มั่นใจในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่ได้มาตรฐาน มียี่ห้อดังนี้ Huawei, Solaredge, SUNGROW, Growatt

3.) อุปกรณ์ยึดแผงโซลาร์ (Mounting): ส่วนประกอบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงแข็งแรงของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่ยึดแผงโซลาร์เซลล์ให้มั่นคง ป้องกันการเคลื่อนที่หรือพลิกคว่ำจากลมหรือปัจจัยภายนอกอื่นๆ และยังช่วยปรับมุมของแผงโซลาร์เซลล์ให้เหมาะสม เพื่อรับแสงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้การเลือกชนิดของ Mounting ให้ถูกต้องกับรูปแบบของหลังคา ก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่ปลอดภัย ยี่ห้อที่เราเลือกใช้คือ SUNFOSON และ BASORTHAI ตามลำดับ
อุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคานั้น มีองค์ประกอบหลักๆ ดังนี้:
- ราง (Rail): ถือเป็นแกนหลักของระบบ Mounting สำหรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ รางทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับวางแผงโซลาร์เซลล์ โดยส่วนใหญ่มักทำจากอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ และมีน้ำหนักเบา
- ตัวต่อราง (Rail Splice): ในกรณีที่ความยาวของหลังคาต้องการรางที่ยาวกว่าความยาวของรางมาตรฐาน ตัวต่อรางจะถูกนำมาใช้เพื่อเชื่อมรางสองท่อนให้มีความยาวต่อเนื่องกันได้อย่างแข็งแรง ทำให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์เป็นไปอย่างราบรื่น
- ขายึดหลังคา (Roof Tile Kit): เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างรางกับโครงสร้างหลังคา ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการยึดระบบทั้งหมดให้มั่นคงเมื่อติดตั้งโซลาร์เซลล์ โดยขายึดหลังคามีหลากหลายประเภท ออกแบบมาให้เหมาะสมกับลักษณะของหลังคาที่แตกต่างกัน ได้แก่:
- L – Fleet: มักใช้สำหรับหลังคาเมทัลชีท (700/760) หรือหลังคาคอนกรีตเรียบ โดยจะยึดเข้ากับโครงสร้างหลังคาด้วยสกรูหรือพุก หากเป็นหลังคาเมทัลชีทประเภทหัวมงกุฎสามารถใช้ Clip lock ยึดกับหลังคาได้เลย ไม่จำเป็นต้องเจาะหลังคา ซึ่งช่วยให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์สะดวกยิ่งขึ้น
- CPAC Mounting หรือตะขอสำหรับหลังคากระเบื้องซีแพค: ถูกออกแบบมาให้เกี่ยวเข้ากับแป หรือลอดใต้กระเบื้อง เพื่อยึดกับโครงสร้างหลังคาได้อย่างแน่นหนาโดยไม่ทำลายกระเบื้อง เหมาะสำหรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคากระเบื้อง
- L-Feet long Stud: ใช้สำหรับหลังคาประเภทลอนคู่ ในการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะเจาะทะลุกระเบื้องจนถึงแปหลังคา เพื่อติดตั้งสกรูขนาดใหม่
- ตัวกดระหว่างแผง (Mid – Clamp): เมื่อมีการติดตั้งโซลาร์เซลล์หลายแผ่นเรียงต่อกัน ตัวกดระหว่างแผงจะทำหน้าที่ยึดขอบด้านข้างของแผงสองแผ่นที่อยู่ติดกันให้แน่นสนิท ช่วยให้แผงไม่ขยับและมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นหลังจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์
- ตัวจับริมแผงโซลาร์เซลล์ (End-Clamp): ใช้สำหรับยึดขอบด้านนอกสุดของแผงโซลาร์เซลล์ในแต่ละแถว ทั้งด้านหัวและด้านท้าย ทำหน้าที่ปิดท้ายและเพิ่มความมั่นคงให้กับแผงชุดนั้นๆ หลังจากการติดตั้งโซลาร์เซลล์
- กราวด์รองแผงโซลาร์เซลล์ (Ground Plate): เป็นแผ่นโลหะเล็กๆ ที่ติดตั้งอยู่ใต้แผงโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับระบบสายดิน เพื่อป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ถือเป็นความปลอดภัยสำคัญในการติดตั้งโซลาร์เซลล์

4.) อุปกรณ์เชื่อมสายไฟของแผงโซลาร์ (MC4 Connector): เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการเชื่อมต่อสายไฟระหว่างแผงโซลาร์เซลล์กับอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบติดตั้งโซลาร์เซลล์ เช่น อินเวอร์เตอร์ หรือกล่องรวมสายไฟ (Combiner Box) เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ยี่ห้อที่ใช้มีดังนี้ คือ JJ-Lapp, LINK และ STAUBLI

5.) สายไฟฟ้ากระแสตรง (DC Cable): เป็นส่วนประกอบสำคัญในระบบติดตั้งโซลาร์เซลล์ มีหน้าที่นำไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่ผลิตได้จากแผงโซลาร์เซลล์ไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ เช่น อินเวอร์เตอร์ เพื่อส่งพลังงานที่ผลิตได้ มียี่ห้อ คือ LINK และ Phelpsdodge
6.) สายไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Cable): เป็นส่วนประกอบสำคัญอีกอย่างในระบบติดตั้งโซลาร์เซลล์ มีหน้าที่นำไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่แปลงจากอินเวอร์เตอร์ไปยังแผงจ่ายไฟฟ้า (distribution board) หรือไปยังระบบสายส่งของการไฟฟ้าฯ เพื่อนำไฟฟ้าไปใช้งาน มียี่ห้อ คือ Phelpsdodge, YAZAKI และ BCC (บางกอกเคเบิล)

7.) รางเดินสายไฟ (Cable Raceway): มีหน้าที่จัดระเบียบและป้องกันสายไฟจากสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ความร้อน ความชื้น ฝุ่นละออง และการกระแทก ช่วยให้ระบบติดตั้งโซลาร์เซลล์มีความปลอดภัยและสวยงาม ยี่ห้อที่ใช้คือ ENERJPLUS, United Manufacturing co., ltd (UMS), Sai Metal Craft (SMC) และ PK&N

8.) เหล็กโครงสร้าง (Steel Structure): ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างต่างๆ ที่จำเป็นในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เช่น Walkway (ทางเดินบนหลังคา), Guardrail (ราวกันตก), Lifeline (สายช่วยชีวิต), Inverter Station (สถานีอินเวอร์เตอร์) และ Cage Ladder (บันไดกรง) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทาง Asia Solution and Supply co., ltd เป็นผู้จัดหาจัดจำหน่าย
สรุปเกี่ยวกับการติดตั้งโซลาร์เซลล์
การติดตั้งโซลาร์เซลล์ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืนสำหรับทั้งบ้านเรือนและธุรกิจ ด้วยการทำความเข้าใจส่วนประกอบหลักแต่ละส่วน ไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ อุปกรณ์ยึดแผงโซลาร์ อุปกรณ์เชื่อมต่อสายไฟ ไปจนถึงระบบสายไฟและโครงสร้างต่างๆ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าการติดตั้งโซลาร์เซลล์ของคุณจะมีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัย การเลือกใช้อุปกรณ์คุณภาพสูงและการวางแผนการติดตั้งโซลาร์เซลล์อย่างรอบคอบ จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดในการผลิตพลังงานสะอาด ลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า และเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง การติดตั้งโซลาร์เซลล์ไม่ใช่เพียงแค่การติดตั้งอุปกรณ์ แต่เป็นการสร้างอนาคตพลังงานที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน
